29 กรกฎาคม 2554

อุทยานฯ ตั้งเป้า เพิ่มเสือโคร่ง 2 เท่าใน 12 ปี

จากสถานการณ์เสือโคร่งในประเทศไทยลดจำนวนลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันพบเหลือเพียง 190–250 ตัว ทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ได้ในอนาคต เนื่องจากสภาพผืนป่าที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยลดน้อยลง ยังทำให้แหล่งอาหารอย่าง กระทิง วัวแดง เก้ง กวาง และหมูป่าลดลงลดลงไปด้วย ขณะเดียวกันเสือโคร่งยังถูกมนุษย์คุกคามจากการลักลอบล้าค้า เนื่องในวันอนุรักษ์เสือโคร่งซึ่งตรงกับวันที่ 29 กรกฎาคมของทุกปี ในปีนี้จะจัดงานขึ้นที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
นายสุนันท์ อรุณนพรัตน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช บอกถึงสถานการณ์เสือโคร่งในปัจจุบันว่า อยู่ในภาวะถูกคุกคามอย่างหนักจากกระบวนการลักลอบค้าสัตว์ป่าที่มีราคาซื้อ-ขายในตลาดมืดสูงมาก ทำให้เสือโคร่งถูกล่ามากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมากรมอุทยานฯ ได้มีการจัดชุดลาดตระเวนออกปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในถิ่นอาศัยของเสือโคร่ง และได้ขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการช่วงเป็นหูเป็นตา หากพบการล่าและการค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมาย ให้รีบแจ้งมายังกรมอุทยานฯ ทันที
“ปีนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ของการจัดงานวันอนุรักษ์เสือโคร่ง โดยสืบเนื่องมาจากความร่วมมือกับองค์กรด้านการอนุรักษ์ระหว่างประเทศ ที่มีการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเชียด้านการอนุรักษ์เสือโคร่งครั้งล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมา ที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สหพันธรัฐรัสเซีย ก็มีแนวทางอนุรักษ์ร่วมกันกับองค์การอนุรักษ์เสือโลก หรือ GTI โดยกำหนดให้วันที่ 29 กรกฎาคมของทุกปีเป็นวันอนุรักษ์เสือโคร่ง ร่วมถึงตั้งเป้าหมายร่วมกันในการเพิ่มจำนวนประชาการเสือโคร่งในป่าของประเทศที่เป็นแหล่งอาศัยของเสือโคร่งให้ได้เป็น 2 เท่าภายในปี 2565 หรือ 12 ปีข้างหน้าด้วย” อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าว
ด้าน ดร.ธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในอดีตประชากรเสือโคร่งมีจำนวนมากถึง 1 แสนตัว ที่อาศัยอยู่ใน 13 ประเทศในแถบทวีปเอเชีย แต่ปัจจุบันมีเหลืออยู่ประมาณ 3,500 ตัว ส่วนในประเทศไทยเหลือเพียง 190–250 ตัว โดยจากข้อมูลของสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าพบว่า มีประชากรเสือโคร่งหนาแน่นมากที่สุดที่เทือกเขาตะนาวศรี ในบริเวณผืนป่าตะวันตกของไทย
ส่วนกิจกรรมในวันอนุรักษ์เสือโคร่ง จะมีการเดินรณรงค์เพื่อการอนุรักษ์เสือโคร่งจากกรมอุทยานไปยังมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และยังมีการเสวนาวิชาการเพื่อการอนุรักษ์เสือโคร่งผ่านมุมมองจากผู้ปฏิบัติงานจริงในพื้นที่ โดยได้รับเกียรติจากหม่อมหลวงปรียากร วรวรรณ ผู้มีประสบการณ์จากการติดตามถ่ายภาพเสือมาอย่างมากมาย ยังมีผู้แทนจากสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า อย่างคุณพรกลม จรบุรม และ ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ซิ้มสิทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเสือโคร่งจากกรมอุทยานฯ มาร่วมเสวนาในครั้งนี้ด้วย.

เกิดแผ่นดินไหวขนาด5.8ริกเตอร์ในฟิลิปปินส์








(10พ.ค.) เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.8 ริกเตอร์นอกชายฝั่งของเกาะมินดาเนาทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์เมื่อเวลา 3.13 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่นหรือ 2.13 น.เช้านี้ตามเวลาไทย โดยศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปใต้ทะเล 35 กม.และห่างจากเมืองเจเนอรัล ซานโตส ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 160 กม. แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย

ส่วนสถานการณ์พายุโซน ร้อน "แอรี"พัดขึ้นฝั่งจังหวัดคาตันดัวเนสของฟิลิปปินส์เมื่อวันอาทิตย์ทำให้เกิด น้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 คนแล้ว โดย 10 คนจมน้ำเสียชีวิต, 3 คนเสียชีวิตเนื่องจากดินถล่มทับบ้าน, 1 คนถูกไฟดูด, 1 คนถูกรถชน และอีก2 คนเสียชีวิตด้วยปัญหาสุขภาพ ประชาชนราว 33,000 ครอบครัวได้รับผลกระทบ พื้นที่เพาะปลูกข้าวและข้าวโพดได้รับความเสียหายเกือบ 45,300 ไร่

และเมื่อวานนี้พายุได้พัดกระหน่ำหลายจังหวัดทางภาคเหนือของเกาะลูซอนและ ค่อยๆอ่อนกำลังลง โดยจนถึงค่ำพายุอยูห่างจากจังหวัดคากายันไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 85 กม. และพายุกำลังเคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้คาดว่าพายุจะอยู่ห่างจากเกาะโอกินาวาของญี่ปุ่นไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 130 กม.เช้าวันพฤหัสบดี
ที่มา http://www.komchadluek.net

19 กรกฎาคม 2554

"อินโดฯ"อ่วมหนัก!สึนามิถล่ม-ภูเขาไฟระเบิด ล่าสุดแผ่นดินไหวอีก5ริกเตอร์ ดับแล้วนับ100ศพหายกว่า500




กรมอุตุนิยมวิทยาของไทยรายงานว่า เมื่อเวลา 07.17 น. ช่วงเช้าที่ผ่านมาตามเวลาในไทยได้เกิดแผ่นดินไหวบริเวณทางตอนใต้ฝั่งตะวันตกของเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5 ริกเตอร์ ลึกจากระดับผิวดิน 10 กิโลเมตร





ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อคืนวันที่ 25ต.ค. เวลาประมาณ 21.45 น.ตามเวลาในประเทศไทยได้เกิดเหตุแผ่นดินไหววัดความแรงได้ 7.7 ริกเตอร์ หมู่เกาะเมนตาไว ทางตะวันตกของเกาะสุมาตราทำให้เกิดสึนามิสูง 3 เมตรกวาดหมู่บ้านหายไป 10 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 112 คน สูญหายอีก 502 คน ขณะที่อีก 13 คนเสียชีวิตหลังภูเขาไฟเมราปีทางตอนกลางของประเทศปะทุ 3 ครั้ง

แผ่นดินไหวที่ SOUTHWEST OF SUMATRA, INDONESIA
ขนาด : 5.0 ริกเตอร์
จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว : SOUTHWEST OF SUMATRA, INDONESIA
วันที่ : 27 ตุลาคม 2553 07:17 น.
ละติจูด : 3° 28′ 48′′ ใต้
ลองจิจูด : 99° 29′ 24′′ ตะวันออก
ความลึกจากระดับผิวดิน : 10 กิโลเมตร





"อินโดฯ"อ่วมหนัก!สึนามิถล่ม-ภูเขาไฟระเบิดติอต่อกัน
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานความคืบหน้า จากเหตุคลื่นยักษ์ หรือสึนามิ พัดถล่มกวาดล้างหมู่บ้าน 10 แห่ง ในหมู่เกาะเมนตาไว ทางตะวันตกของเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา ว่า ยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 112 ราย และสูญหาย 502 คน
นายมุดจิฮาร์โต หัวหน้าศูนย์วิกฤตกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า คลื่นสึนามิที่หมู่เกาะเมนตาไวสูง 3 เมตรและน้ำทะลักเข้าไปในแผ่นดินไกลถึง 600 เมตรบนเกาะเซาท์ ปาไกที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ร้อยละ 80 ของอาคารในหมู่บ้านมุนไตถูกคลื่นซัดทำลาย และผู้คนจำนวนมากหายไปกับสายน้ำ ทีมกู้ภัยยังกำลังตามหาเรือลำหนึ่งที่เชื่อว่า บรรทุกนักท่องเที่ยวออสเตรเลีย 9 คน กับญี่ปุ่น 1 คนที่สูญหายไปหลังสึนามิด้วย
นายมุดจิฮาร์โต กล่าวด้วยว่า เจ้าหน้าที่การแพทย์กำลังใช้เฮลิคอปเตอร์เดินทางไปยังพื้นที่ซึ่งประสบภัยพิบัติเลวร้ายที่สุด แต่พบอุปสรรคจากการขาดการติดต่อสื่อสารในภูมิภาค
ขณะที่นายวิศณุ วิจายา ผู้ประงานองค์กรช่วยเหลือ "ดีแซสเตอร์ แมเนจเมนต์" กล่าวว่าทีมกู้ภัยจากกรุงจาการ์ต้าจะประสานงานกับทีมท้องถิ่นเพื่อขนย้ายศพ และส่งความช่วยเหลืออด้านอาหาร ยารักษาโรค เต้นท์และผ้าห่ม
เมื่อวันที่ 27 ต.ค. มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ทางการอินโดนีเซียว่า พบนักเล่นกระดานโต้คลื่นออสเตรเลีย 9 คน ที่สูญหายไปแล้ว ด้านแถลงการณ์กระทรวงต่างประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ชาวออสเตรเลียทั้ง 9 คนปลอดภัยและยังมีชีวิตอยู่ หลังขึ้นเรือท่องเที่ยว “เอ็มวี เซาเธิร์น ครอสส์” ขณะที่พวกเขาไม่ทราบว่าเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิขึ้น
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา ยังได้เกิดเหตุภูเขาไฟเมราปี ในภาคกลางของเกาะชวา ระเบิด 3 ครั้ง ทำให้ผู้คนจำนวนมากหนีตายอย่างตื่นตระหนก และคร่าชีวิตคนไป 13 คน
ผู้เชี่ยวชาญด้านภูเขาไฟของรัฐบาลอินโดฯ เปิดเผยว่า มีเสียงระเบิดสามครั้งเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ก่อนที่ภูเขาไฟจะพ่นลาวาสูง 1.5 กิโลเมตร และส่งหมอกควันร้อนลงมาตามเนินเขา โดยเจ้าหน้าที่พบ 12 ศพ ใกล้ภูเขาไฟ ทั้งภายในและรอบๆ บ้านของคุณปู่มาริจาน ผู้ดูแลภูเขาไฟและบอกว่า พวกเขาเสียชีวิตเพราะถูกเผาโดยหมอกควันร้อนจากภูเขาไฟ
โดยหน่วยกู้ภัยพบร่างผู้เสียชีวิตจำนวน 12 รายภายในและบริเวณศาลของเทพเจ้าภูเขาไฟ โดยคาดว่าอาจพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก เนื่องจากสภาพภูมิประเทศไม่เอื้ออำนวยต่อการค้นหานัก เนื่องจากถนนหลายแห่งถูกทำลาย และภูเขาไฟยังคงมีความไม่แน่นอน และอาจระเบิดได้ตลอดเวลา โดยยอดผู้เสียชีวิตที่ได้รับรายงานล่าสุดเมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น อยู่ที่ 25 ราย
ทางการอินโดนีเซีย ประกาศให้พื้นที่ 10 กิโลเมตรรอบภูเขาไฟ เป็นเขตพื้นที่สีแดง โดยสั่งให้ประชาชนกว่า 19,000 คนที่อาศัยอยู่โดยรอบเร่งทำการอพยพ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านภูเขาไฟของอินโดนีเซียกล่าวว่า การระเบิดของภูเขาไฟเมราปิ ซึ่งมีความสูง 2,914 เมตรครั้งนี้ มีความรุนแรงกว่าการระเบิดเมื่อปี 2006 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย





โดยการระเบิดที่รุนแรงที่สุด เกิดขึ้นเมื่อปี 1930 โดยประชาชนมากกว่า 1,300 รายเสียชีวิต และการระเบิดเมื่อปี 1994 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 60 ราย
รายงานระบุว่า อินโดนีเซียตั้งอยู่บน"วงแหวนแห่งไฟ"ของแปซิฟิค (Ring of Fire) อันเป็นจุดบรรจบของแผ่นเปลือกทวีป ทำให้มักเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิด


ที่มา : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1288143666&grpid=01&catid=01

15 กรกฎาคม 2554

SHOCK!!!!! "red rain" หรือ "blood rain" (ฝนเลือด)


ปรากฏการณ์ฝนสีแดง ครั้งใหญ่ได้เกิดขึ้นเมื่อราวๆ สี่ปีที่แล้วที่เคราลาประเทศอินเดีย โดยที่ฝนสีแดงได้ตกต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลายาวนานถึงสองเดือน ซึ่งในปรากฎการณ์นี้มีรายงานว่าได้มีเสียงระเบิดดังขึ้นก่อนที่ฝนสีแดงจะเทลงมา ซึ่งโดยเบื้องต้นนักวิทยาศาสตร์ได้สรุปว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดจากอุกกาบาติที่พุ่งเข้ามาในชั้นบรรยากาศและระเบิดขึ้นในเวลาเช้าตรู่ของวันที่ 25กรกฎาคม โดยที่ฝุ่นละอองจากการระเบิดนั้นได้ทำให้เกิดสปอร์จำนวนมหาศาล ซึ่งสปอร์เหล่านั้นได้เข้าไปสะสมอยู่ในกลุ่มเมฆและทำให้น้ำฝนเป็นสีแดง


อย่างไรก็ดีนักวิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถตอบคำถามได้ว่า ทำไมสปอร์จำนวนมหาศาลไม่ปลิวไปตามลมและตกไปสู่บ้านเรือนแถวนั้นบ้าง?...น้ำฝนดังกล่าวได้ถูกรวบรวมและได้ถูกส่งข้ามโลกไปตรวจสอบที่แลปไมโครไบโอโลยีของมหาวิทยาลัย Sheffield ประเทศอังกฤษ สิ่งที่ค้นพบนั้นเป็นอะไรที่น่าตกใจยิ่งกว่าเพราะว่าสปอร์ดังกล่าวเป็นของสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีอยู่บนโลกใบนี้ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่าบางทีแล้วการที่ดาวหางพุ่งชนโลกเมื่อหลายล้านปีก่อนได้นำเอาเซลของสิ่งมีชีวิตติดมาด้วยและเซลเหล่านั้นได้วิวัฒนาการมาเป็นสิ่งมีชีวิตต่างๆ บนโลกปัจจุบัน..


ดร. หลุยส์ นักวิทยาศาสตร์ชาวอินเดีย ได้กล่าวไว้ในเว็บไซน์ของเขาว่า เมื่อเอาน้ำฝนดังกล่าวไปตรวจสอบก็ได้พบเซลส์ของสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์ ซึ่งประกอบไปด้วยธาตุคาร์บอนและอ๊อกซิเจนอันเป็นองค์ประกอบพื้นฐานอย่างไรก็ดีเขาไม่พบ DNA จากเซลส์ดังกล่าว ซึ่งสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกใบนี้จะมี DNA เป็นส่วนประกอบ การที่ไม่มี DNA นั้นแสดงว่าเซลส์สิ่งมีชีวิตนี้ไม่ใช่ผลิตผลทางชีวภาพบนโลก อย่างไรก็ดีดร.หลุยส์ก็ไม่ได้ฟันธงลงไปว่าแท้จริงแล้วเซลส์นั้นมาจากต่างดาวจริงเนื่องจากว่าไม่เคยมีการค้นพบหลักฐานของสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวมาก่อน (อย่างดีก็แค่ฟอสซิลของแบคทีเรียจากดาวอังคาร แต่นี่ก็เป็นแนวคิดที่ดีที่สุดเกี่ยวกับปรากฎการณ์ฝนสีแดงในขณะนี้..

8 กรกฎาคม 2554

ฮือฮา!พบฝูงวาฬบรูด้า โผล่หากินบางแสน-เขาสามมุก



อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลฯ เผยพบวาฬแม่-ลูก ที่เคยหากินทะเลสมุทรสาคร โผล่พร้อมฝูงปลาวาฬบรูด้าอีก 5 ตัว แถวทะเลเขาสามมุกกับบางแสน นับเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 4 ปี...
เมื่อวันที่ 8 ก.ค. นายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ทช. โดยศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน ได้สำรวจพบปลาวาฬคู่แม่ลูก “แม่ข้าวเหนียว” และลูก “เจ้าส้มตำ” บริเวณนอกชายฝั่ง จ.สมุทรสาคร เมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และในต้นเดือนก.ค.นี้ ได้สำรวจพบว่า แม่ลูกคู่นี้หากินฝูงปลากะตักอยู่ใกล้ชายฝั่งบริเวณเขาสามมุข-หาดบางแสน จ.ชลบุรี โดยพบว่า “เจ้าส้มตำ” มีขนาดความยาวเพิ่มขึ้นจาก 6 เมตร เป็น 7 เมตรเศษ และยังคงหากินใกล้ชิดกับ “แม่ข้าวเหนียว” ตลอดเวลา
นอกจากนี้ ยังพบปลาวาฬขนาดใหญ่อีก 5 ตัว รวมทั้งหมดจำนวน 7 ตัว หากินในบริเวณเดียวกันนี้ ในรัศมีห่างฝั่ง 2-5 กิโลเมตร น้ำลึก 10-11 เมตร ซึ่งปลาวาฬอีก 5 ตัว ที่พบในครั้งนี้เป็นตัวที่มีตำหนิชัดและตั้งชื่อแล้ว 3 ตัว คือ “เจ้าวันดี”, “เจ้าชัดเจน” และ “เจ้านำโชค” ทั้ง 3 สามตัวนี้พบหากินนอกชายฝั่ง จ.เพชรบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร เมื่อเดือน เม.ย.ถึงมิ.ย. และในช่วงระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา สำรวจพบปลาวาฬบรูด้าบริเวณเขาสามมุข-หาดบางแสน จ.ชลบุรี เพียง 3 ครั้งเท่านั้น
นายเกษมสันต์ กล่าวต่อว่า กล่าวได้ว่า อ่าวไทยตอนบนเป็นแหล่งอาหารของปลาวาฬบรูด้าที่สำคัญมาก ซึ่งอาหารหลักได้แก่ ฝูงปลาขนาดเล็ก เช่น ปลากะตักและปลาหัวตะกั่ว เป็นต้น การจำแนกประชากรปลาวาฬบรูด้าโดยใช้ภาพถ่ายนั้น พบว่ามีจำนวนทั้งหมด 35 ตัว มีพื้นที่หากินส่วนใหญ่คืออ่าวไทยตอนบน และบางฤดูกาลจะอพยพย้ายตามอาหารลงไปทางใต้
ขณะเดียวกัน ทช.ยังมีโครงการศึกษาพฤติกรรมของปลาวาฬบรูด้าโดยใช้เสียงร้อง กับนักวิจัยต่างประเทศในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปชมปลาวาฬบรูด้าให้ปฏิบัติตามคู่มือการชมโลมาและปลาวาฬ ซึ่งสามารถศึกษาได้จากเว็บไซต์ของ ทช. และ ทช. รวมทั้งกำลังดำเนินการจัดทำเอกสาร เรื่องภาพถ่ายของปลาวาฬบรูด้า หากท่านสนใจเข้าร่วมงานอนุรักษ์ปลาวาฬบรูด้าของประเทศไทย สามารถเข้าร่วมโครงการแจ้งข่าวสารการพบเห็นปลาวาฬบรูด้ากับ ทช. ได้ในโอกาสต่อไป
ที่มา ไทยรัฐ

1 กรกฎาคม 2554

ทอร์นาโดถล่มใจกลางเมืองสหรัฐ



สำนักข่าวต่างประเทศ เผยแพร่ภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดบนอาคารแห่งหนึ่ง ย่านใจกลางเมืองสปริงฟิลด์ เมืองใหญ่อันดับ 3 ของรัฐแมสซาชูเสต สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา
       โดยความรุนแรงของพายุทอร์นาโดอย่างน้อย 2 ลูก โหมกระหน่ำพื้นที่ทางตะวันตกและทางตอนกลางของรัฐแมสซาชูเสต ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 คน พร้อมทั้งสร้างความเสียหายอย่างหนักบริเวณย่านในกลางเมืองสปริงฟิลด์ เมืองใหญ่อันดับ 3 ของรัฐ ขณะที่ผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเสต ประกาศภาวะฉุกเฉิน พร้อมขอให้รัฐบาลกลางส่งกองกำลังรักษาการณ์แห่งชาตินับพันคนมาช่วยผู้ประสบภัย นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง เหตุพายุทอร์นาโดถล่มครั้งนี้ นับเป็นครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 15 ปีของรัฐแมสซาชูเสต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีโอกาสเสี่ยงกับภัยพายุทอร์นาโดในระดับต่ำ
          นอกจากนี้ยังได้มีการประกาศเฝ้าระวังภัยจากพายุทอร์นาโดในหลายพื้นที่ บริเวณชายฝั่งภาคตะวันออกของสหรัฐ รวมทั้งที่เมืองฟิลาเดลเฟีย นครนิวยอร์ก และนครบอสตัน